Movie Review and Storyline: Destination Wedding (2018)
Movie Review and Storyline: Destination Wedding (2018)
Blog Article
รีวิวหนัง Destination Wedding (2018) ไปงานแต่งเขา แต่เรารักกัน
ข้อมูลหนัง
ประเภทหนัง: ตลก, ดรามา และโรแมนติก
ผู้กำกับ: Victor Levin
นักเขียน: Victor Levin
นักแสดงนำ: Winona Ryder, Keanu Reeves และ DJ Dallenbach
เรื่องย่อ
Destination Wedding (2018) ไปงานแต่งเขา แต่เรารักกัน บอกเล่าเรื่องราวของแฟรงค์และลินด์เซย์ สองคนวัยกลางคนที่บังเอิญพบกันในสนามบิน ทั้งคู่เริ่มต้นด้วยความไม่ชอบหน้ากันตั้งแต่แรกพบ เนื่องจากการสนทนาที่ยุ่งเหยิงและท่าทีที่ดูไม่เป็นมิตร ขณะที่พวกเขารอขึ้นเครื่องบินขนาดเล็กที่มีเพียง 8 ที่นั่ง ความไม่พอใจของทั้งสองเพิ่มขึ้นอีกระดับเมื่อรู้ว่าพวกเขาจะต้องนั่งติดกันตลอดเที่ยวบิน ท่ามกลางบรรยากาศที่ตึงเครียด ทั้งสองต่างตกตะลึงเมื่อได้รู้ว่าจุดหมายปลายทางของพวกเขาคืองานแต่งงานที่ปาโซโรเบลส์ และคีธ เจ้าบ่าวของงาน คือน้องชายต่างมารดาของแฟรงค์และเป็นอดีตคู่หมั้นของลินด์เซย์ การที่ทั้งสองมาพบกันในสถานการณ์นี้ ทำให้พวกเขาเริ่มสงสัยว่าคีธจงใจจัดฉากนี้ขึ้นมา ดูหนังใหม่ เต็มเรื่อง ไม่มีโฆษณาคั่น ได้ฟรีที่นี่
เมื่อถึงปาโซโรเบลส์ ความบังเอิญยังไม่จบ ทั้งสองถูกจัดให้อยู่ในห้องพักติดกันที่โรงเตี๊ยม ความหงุดหงิดของแฟรงค์เผยออกมาเมื่อเขาบอกว่าเขาไม่อยากมางานแต่งงานนี้เลย ขณะที่ลินด์เซย์เปิดเผยว่าเธอมาเพียงเพื่อตัดสัมพันธ์อย่างเด็ดขาดกับคีธ อดีตคู่หมั้นที่เธอเคยรักแต่จากไปเมื่อหกปีก่อน แฟรงค์ซึ่งทำงานในสายการตลาดกับ JD Power and Associates และลินด์เซย์ อัยการสาวผู้ตรงไปตรงมา ต่างแลกเปลี่ยนคำวิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนเกี่ยวกับอาชีพของกันและกัน เสริมสร้างความบาดหมางระหว่างพวกเขา
ในงานเลี้ยงซ้อมคืนแรก พวกเขาจำใจต้องนั่งข้างกันอีกครั้ง ทั้งสองหลีกเลี่ยงการเข้าสังคมกับคนอื่นและเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับแขกในงานอย่างตรงไปตรงมา แฟรงค์เล่าความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยความขัดแย้งในครอบครัวของเขา ซึ่งลินด์เซย์ก็ฟังอย่างตั้งใจ วันรุ่งขึ้น ขณะที่มีกิจกรรมชิมไวน์ก่อนพิธีแต่งงาน ทั้งสองตัดสินใจหลีกเลี่ยงการเข้าร่วมและใช้เวลาสนทนากัน ลินด์เซย์เปิดเผยว่าเธอยังคงมีความรู้สึกต่อคีธ แต่แฟรงค์กลับมองว่าความรักเป็นสิ่งไร้จุดหมาย เขาเล่าถึงประวัติครอบครัวที่ยุ่งเหยิงซึ่งส่งผลต่อมุมมองชีวิตของเขา ลินด์เซย์พยายามโน้มน้าวให้แฟรงค์มองความรักในแง่ดีมากขึ้น การสนทนาเหล่านี้ดูเหมือนจะทำให้พวกเขาเข้าใจกันมากขึ้น
ในช่วงค่ำหลังงานแต่งงาน พวกเขาออกจากงานและเดินเล่นในชนบท ทั้งสองต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นเมื่อเจอสิงโตภูเขา แฟรงค์ไล่สัตว์ร้ายไปด้วยการส่งเสียงดัง ทำให้ลินด์เซย์รู้สึกขอบคุณอย่างมาก ความกลัวและความโล่งใจทำให้พวกเขาเปิดเผยความรู้สึกที่ซ่อนเร้น ทั้งสองจูบกันและพัฒนาความสัมพันธ์ไปอีกขั้น หลังจากนั้นพวกเขากลับไปที่ห้องพักของแฟรงค์ ใช้เวลาพูดคุยกันอย่างเปิดอก ทั้งดื่ม กิน และชมโทรทัศน์ด้วยกัน ลินด์เซย์สารภาพว่าเธอชอบเขาและอยากสานต่อความสัมพันธ์ แต่แฟรงค์ปฏิเสธด้วยเหตุผลว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่น่าจะประสบความสำเร็จ
เช้าวันรุ่งขึ้น ทั้งสองออกเดินทางกลับสนามบิน โดยบนเครื่องบิน ลินด์เซย์พยายามเกลี้ยกล่อมแฟรงค์อีกครั้ง เธอเชื่อว่าการที่ทั้งสองได้พบกันคือปาฏิหาริย์ แต่แฟรงค์ยังยืนยันว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจะไม่ไปไหน หลังจากลงจอด ทั้งคู่ตกลงที่จะไม่แลกเปลี่ยนข้อมูลติดต่อกัน แต่ขณะที่แฟรงค์ไปส่งลินด์เซย์ที่บ้าน เธอเอ่ยที่อยู่ของตัวเองออกมาดังๆ อย่างมีนัยยะ ในค่ำคืนที่เงียบสงบ ลินด์เซย์ได้ยินเสียงกริ่งประตูบ้าน เธอเปิดประตูและพบว่าแฟรงค์ยืนอยู่ตรงนั้น พร้อมรอยยิ้มที่เปลี่ยนทุกอย่างให้มีความหมาย ความหวังใหม่ในความสัมพันธ์ที่เคยดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ อาจเพิ่งเริ่มต้นขึ้นในค่ำคืนนั้น
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์
Destination Wedding (2018) ไปงานแต่งเขา แต่เรารักกัน เป็นภาพยนตร์ที่หลายคนอาจไม่ชื่นชอบเนื่องจากลักษณะเด่นของมัน: ตัวละครหลักสองคนที่ไม่หยุดพูดและมักบ่นตลอดเวลา แต่สำหรับผู้ชมที่เปิดใจ แนวทางนี้กลับกลายเป็นเสน่ห์ที่น่าหลงใหล โดยเฉพาะเมื่อ Winona Ryder และ Keanu Reeves ซึ่งเคยร่วมงานกันมาแล้วในภาพยนตร์สามเรื่องก่อนหน้า มาถ่ายทอดบทบาทได้อย่างยอดเยี่ยมและเติมเต็มเคมีระหว่างตัวละครได้อย่างลงตัว เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ ลินด์เซย์ (Ryder) และ แฟรงค์ (Reeves) พบกันโดยบังเอิญที่สนามบิน ทั้งสองกำลังรอขึ้นเครื่องบินขนาดเล็ก 8 ที่นั่งไปยังไร่องุ่นในแคลิฟอร์เนียเพื่อร่วมงานแต่งงาน พวกเขาเริ่มต้นด้วยความไม่ชอบหน้ากันทันที เมื่อแฟรงค์ยืนขวางทางลินด์เซย์และถูกเธอตำหนิอย่างตรงไปตรงมา ในช่วงแรกของการพบกัน ความคิดเห็นของพวกเขาต่างดูเหมือนคำกล่าวหาที่แฝงด้วยความขบขันและประชดประชัน เมื่อพวกเขาเริ่มเข้าใจว่าทั้งคู่มุ่งหน้าไปยังงานแต่งงานเดียวกัน ความหงุดหงิดก็ยิ่งทวีคูณ
ดนตรีประกอบ ของ William Ross เป็นอีกจุดเด่นที่ช่วยเสริมบรรยากาศ ตั้งแต่เสียงแจ๊สเบาๆ ในช่วงเริ่มต้น ไปจนถึงเสียงแตรอันโดดเด่นที่บอกเล่าถึงอารมณ์ขันของเรื่อง ดนตรีที่เปลี่ยนไปสอดคล้องกับอารมณ์ของตัวละครและธีมของหนัง ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราว ทั้งสองคือตัวละครหลักของภาพยนตร์ที่แทบไม่มีตัวละครสมทบคนใดได้รับบทพูดอย่างเต็มที่ แฟรงค์และลินด์เซย์ใช้เวลาส่วนใหญ่ทะเลาะกัน วิจารณ์งานแต่งงาน ผู้คน และแม้แต่แนวคิดเรื่องความรัก ตัวละครทั้งสองดูเหมือนจะถูกขับเคลื่อนด้วยความเย้ยหยันโลกในทุกด้าน ซึ่งสะท้อนผ่านบทสนทนาอันชาญฉลาดที่เต็มไปด้วยคำพูดประชดประชัน เช่น ฉากที่ลินด์เซย์ตั้งคำถามว่า ถ้าจุดหมายปลายทางของเราไม่ใช่แค่สถานที่ แต่เป็นการตกหลุมรักล่ะ? และแฟรงค์ตอบทันทีว่า แล้วถ้าคุณไม่พูดอะไรแบบนั้นอีกเลยล่ะ?
แม้จะมีความขัดแย้งในความคิดและความสัมพันธ์ที่ตึงเครียด แต่ความเฉียบแหลมและเสน่ห์ของทั้ง Ryder และ Reeves ทำให้ตัวละครเหล่านี้มีชีวิตชีวา พวกเขาทำให้คนดูอดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นทั้งสองวิจารณ์กันไปมาด้วยความตรงไปตรงมา เช่น ฉากที่ลินด์เซย์เรียกเขาว่า คนไม่มีมารยาทพอๆ กับนักลงทุนและนักการเมือง หรือช่วงที่พวกเขานั่งจับกลุ่มดูถูกแขกคนอื่นๆ ในงานเลี้ยงซ้อมเหมือนเป็นกีฬา ฉากที่น่าจดจำที่สุดฉากหนึ่งคือเมื่อทั้งสองต้องเผชิญหน้ากับสิงโตภูเขาในชนบท พวกเขาสร้างความประทับใจให้กันด้วยความกล้าหาญ (และความเงอะงะ) ในการจัดการสถานการณ์ ทั้งสองลงเอยด้วยการหัวเราะและเปิดใจมากขึ้น แม้กระทั่งฉากเซ็กส์ที่ดูจะตั้งใจทำให้ขำขันแทนที่จะโรแมนติก กลายเป็นฉากที่สะท้อนความสัมพันธ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา
Victor Levin ผู้เขียนบทและกำกับภาพยนตร์ ถ่ายทอดเรื่องราวนี้ด้วยมุมมองที่เฉียบคมและเสียดสีเกี่ยวกับงานแต่งงานในจุดหมายปลายทางสุดหรู โดยชี้ให้เห็นถึงความขัดแย้งในแนวคิดของการเฉลิมฉลองเช่นนี้ ซึ่งบางครั้งดูเหมือนจะเป็นความพยายามอวดอ้างมากกว่าความจริงใจ บทพูดและการเล่าเรื่องเน้นความขบขันที่แฝงด้วยการเสียดสีและความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์ แม้ Destination Wedding จะไม่ได้มอบเรื่องราวความรักโรแมนติกในแบบที่ผู้ชมคาดหวังจากชื่อเรื่อง แต่กลับสร้างความประทับใจผ่านอารมณ์ขันที่ซับซ้อนและบทสนทนาที่ฉลาดล้ำ ตัวละครของ Ryder และ Reeves ทำให้เรามองเห็นความเป็นมนุษย์ในความขมขื่นและความหวังอันเลือนลาง ท้ายที่สุด ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจไม่ใช่การเฉลิมฉลองความรักแบบทั่วไป แต่มันเฉลิมฉลองการที่เราทุกคนต่างมีข้อบกพร่อง และบางครั้งคนสองคนที่เหมาะสมอาจพบกันในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดโดยไม่คาดคิด ติดตามเรื่องราวทั้งหมดของหนังได้ที่ mvhd24.com ภาพคมชัด ไม่มีโฆษณาคั่น รับชมหนังฟรี ตลอด 24 ชม.
#DestinationWedding #ไปงานแต่งเขาแต่เรารักกัน #ดูหนังใหม่ #mvhd24 #รีวิวหนัง #MovieReview #MovieSpoilers
กลับด้านบน Report this page